หน้าแรก
English Version
  ประวัติวัด
  แผนที่ตั้งวัด
  แผนที่ภายในวัด
  ถาวรวัตถ
  ภาพจิตรกรรม
  ลำดับเจ้าอาวาส
  จำนวนพระสงฆ์
  วันสำคัญทางศาสนา
  ตารางแสดงธรรม
  ร.ร.พระปริยัติธรรม
  ร.ร.พุทธศาสนวันอาทิตย์
  โคลงสุภาษิต
  หนังสือธรรมะ
  ศาสนกิจของเจ้าอาวาส
 
 
 
  
เฮฮาภาษาวัด
     ในวงการพระสงฆ์ ในพระพุทธศาสนานั้น ล้วนแต่มีทั้งด้านดี และด้านที่ไม่ดี ปะปนกันไป. แต่ในที่นี้จะกล่าวถึงแง่ที่ให้ความสนุกสนาน เป็นความบันเทิง มากกว่าด้านอื่น ๆ เพราะฉะนั้นแล้ว จะผิดถูกอย่างไร ขอให้ท่านผู้รู้ทั้งหลาย โปรดได้ช่วยชี้แนะด้วย.
  สีกากับพระมหา 1
      ณ วัดแห่งหนึ่งในต่างจังหวัดทางภาคใต้ของประเทศไทยเรา พระมหารูปหนึ่ง เข้ามาศึกษาบาลี ในเมืองหลวง จนได้เป็นมหา จึงกลับไปเยี่ยมญาติโยม ที่ต่างจังหวัด. พอดี สีกาแฟนเก่า ทีเคยคบกันมา แต่ครั้งกระโน้น ซึ่งตอนนี้ ได้แต่งงานมีครอบครัว มีลูกๆไปเรียบร้อยแล้ว ทราบข่าวนั้น ก็มาเยี่ยม พระมหาที่วัด ได้พูดจาปราศรัยกันเป็นที่สมควรแล้ว
    สีกา: หลวงพี่บวชอยู่อย่างนี้ ก็ดีแล้วนะ ไม่ต้องสึกหรอก
    พระมหา: อ้าว! แล้วทำไมหล่ะ?
    สีกา: อื่อ! เมื่อหนูไม่ได้หลวงพี่ หนูก็ไม่อยากให้คนอื่นได้.
    พระมหา: ......
     
     
  หลวงตากับเจ้าอาวาส
 
     ณ วัดแห่งหนึ่งในต่างจังหวัด ทางภาคใต้ของประเทศไทยเรา พระหลวงตารูปหนึ่ง ซึ่งเข้ามาบวชเมื่อตอนอายุมากแล้ว เข้าไปหาเจ้าอาวาส เห็นท่านนั่งฉันหมากอยู่ ซึ่งเป็นเวลาเย็น
    หลวงตา: ท่านอาจารย์! ฉันเข้าไปได้อย่างไรหล่ะหมากนี่
    เจ้าอาวาส: อ้าว! แล้วมันเป็นอย่างไรหล่ะ?
    หลวงตา: คือหมากนี้ มันเป็นผลไม้ ฉันเข้าไปมันก็เป็นอาบัตินะ
    เจ้าอาวาส: หลวงตาเอ๋ย! ไอ้หมากพลูนี่ฉันได้แม้ในตอนเย็น
    หลวงตา: ครับ ๆ
    อาบัติ คือ โทษที่เกิดเพราะความละเมิดในข้อที่พระพุทธเจ้าห้าม
     
     
  หลวงตากับพระมหา
       ณ วัดแห่งหนึ่งในเมืองหลวง ของประเทศไทยเราในสมัยก่อน หลวงตารูปหนึ่ง คือบวช เมื่อตอนแก่แล้ว ไม่ค่อยได้ศึกษาพระธรรมวินัยอะไร ปฏิบัติไป ตามความ คุ้นเคย จึงทำให้ผิดศีล ผิดวินัยเป็นประจำ และท่านมีนิสัยนักเลง. วันหนึ่ง ท่านตัดต้นไม้อยู่.พระมหามาเจอเข้า
    พระมหา: หลวงตา! ทำอะไรอยู่หล่ะ?
    หลวงตา: ก็ตัดต้นไม้อยู่ ไม่เห็นเหรอ?
    พระมหา: หลวงตา! ตัดต้นไม้ มันเป็นอาบัติน่ะ หลวงตาไม่รู้หรือ?
    หลวงตา: อาบัติน่ะ! ถ้ามันไม่กินพระ แล้วมันจะกินหมาที่ไหนหล่ะ?
    พระมหา: .........
    -พระภิกษุพรากของเขียว คือ ตัดไม้ ฟันไม้ ถอนหญ้า เป็นอาบัติ ปาจิตตีย์-
     
     
  ขี้เมาเข้าพรรษา
 
      ณ วัดแห่งหนึ่งในต่างจังหวัดทางภาคใต้ของประเทศไทยเรา เมื่อย่างเข้าฤดูฝน คือ แรม ๑ ค่ำ เดือน ๘ พระภิกษุในแต่ละวัด ก็ประกอบพิธีอธิษฐานเข้าพรรษา ตั้งใจว่า จะพักอาศัยอยู่ในอาวาสนี้จนตลอด ๓ เดือน ในฤดูฝนนี
    พระสงฆ์: อิมัสสะมิง อาวาเส, อิมัง เตมาสัง, วัสสัง อุเปมิ.
    ขี้เมา: อิมัสสะมิง อาวาเส, อิมัง เตมาสัง, มึงซื้อบ้าง กูซื้อบ้าง อุเปมิ.
    พระสงฆ์: ................
     
     
  สวยหรือไม่สวย
 
     ณ วัดแห่งหนึ่ง ในเมืองหลวงของประเทศไทยเรา พระลูกศิษย์เห็นเจ้าหน้าที่ เขาจัดดอกไม้ได้สวยงาม จึงได้ปรารภกับพระอาจารย์
    ลูกศิษย์: ดอกไม้นี้สวยนะพระอาจารย์นะ
    พระอาจารย์: หือ! ตรงไหนหล่ะที่สวย? ลองชี้ดูซิ
    ลูกศิษย์: ชี้ไปตรงที่ตนเองเห็นว่าสวย
    พระอาจารย์: แล้วมันเคยบอกเหรอ ว่ามันสวย?
    ลูกศิษย์: .....................
     
     
  ไวไวไม่ใช่มาม่า
 
     ณ วัดแห่งหนึ่งในต่างจังหวัดทางภาคใต้ของประเทศไทยเรา เมื่อถึงฤดูฝน จะมีพระภิกษุใหม่ๆ มาบวชเข้าพรรษา. แต่พระภิกษุบวชใหม่ ไม่เคยชิน กับการที่ต้องอดอาหาร ในเวลาเย็น. วันหนึ่ง เกิดหิวขึ้นมา พระภิกษุใหม่ ก็มาปรึกษากันว่า "พระอาจารย์ห้ามฉันข้าว ในตอนเย็น" เลยตกลงกัน ต้มบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปกินกัน. แต่เหตุการณ์นั้น ไม่พ้นสายตาของสามเณร จึงไปฟ้องเจ้าอาวาส. เจ้าอาวาส จึงเรียกพระใหม่มาสอบถาม
    เจ้าอาวาส: ได้ยินว่าพวกเธอ ต้มมาม่ากินกันเหรอ?
    พระใหม่: พูดอ้อมแอ้มว่า "ไม่ใช่มาม่าหรอกครับ แต่เป็นไวไวต่างหาก"
    เจ้าอาวาส: เออๆ ยังไงๆ มันก็ผิดเหมือนกันแหละ. ไปแสดงอาบัติเสีย.
    -พระภิกษุฉันของเคี้ยวของฉัน ที่เป็นอาหารในเวลาวิกาล คือ ตั้งแต่พระอาทิตย์เที่ยงแล้วไป จนถึงวันใหม่ เป็นอาบัีติปาจิตตีย์-
     
     
  พระมหาสองรูปสนทนากัน
 
  ณ วัดแห่งหนึ่ง ในเมืองหลวง ของประเทศไทยเรา พระมหาสองรูป สนทนากันถึงเรื่อง การเดินทางไปต่างประเทศ. ประมาณปีพุทธศักราช ๒๕๕๘ พระภิกษุหลายรูปในวัด ได้เดินทางไปต่างประเทศ เพื่อศึกษาดูงานในด้านต่างๆ อย่างเช่น จีน ญี่ปุ่น พม่า เขมร และลาว เป็นต้น.
    พระมหาหนึ่ง: ท่านมหา...ไม่อยากไปไหนบ้างเลยหรือ?
    พระมหาสอง: อยากไปเหมือนกันครับ
    พระมหาหนึ่ง: อยากจะไปไหนหล่ะ?
    พระมหาสอง: อยากไปนิพพานครับ
    พระมหาหนึ่ง: ...................
     
     
  มึงว่าใคร?
 

  ณ วัดแห่งหนึ่ง ในภาคตะวันออก ของประเทศไทยเรา ซึ่งตอนนั้นเริ่มสร้างวัดใหม่ๆ มีชาวบ้านบางส่วน ไม่พอใจที่จะให้สร้างวัด อยากจะเอาสถานที่นั้น ไปสร้างที่พักเป็นรีสอร์ท อะไรทำนองนั้น จึงมีชาวบ้านบางส่วน ด่าว่าหลวงพ่อเจ้าอาวาส ด้วยคำเสียๆ หายๆ. วันหนึ่ง หลวงพ่อ ต้องออกไปทำธุระ ในหมู่บ้าน ต้องเดินผ่านบ้าน ของชาวบ้าน ที่ไม่พอใจท่านด้วย. ชาวบ้านคนนั้น เมื่อเห็นท่านเดินมา ถึงหน้าบ้าน ก็เริ่มต้นด่าเป็นการใหญ่. หลวงพ่อเข้าไปหาเขา แล้วจับที่แขนเขย่าๆ

    หลวงพ่อ ไหนๆ มึงว่าใคร?
    ชาวบ้าน ก็ว่ามึงนั่นแหละ
    หลวงพ่อ อ๋อ ว่ามึงเองเหรอ แล้วไป. นึกว่าว่ากู.
    ชาวบ้าน ......................
       
       
  ท่านมาจากสายไหน?
 
   ช่วงออกพรรษา เป็นเวลาที่พระภิกษุสามเณร นิยมเดินทาง เที่ยวจาริกกรรมฐานไป ในพื้นที่ต่างๆ เพื่อเป็นการเปลี่ยนบรรยากาศ ไปในตัวด้วย ได้ประพฤติธรรม ตามพระดำรัส ขององค์สมเด็จพระผู้มีพระภาคเจ้าด้วย. ณ วัดแห่งหนึ่ง ในเมืองหลวง ของประเทศไทยเรา พระมหารูปหนึ่ง ได้มีโอกาส เดินทางจาริกธุดงค์ไปทางภาคอีสาน อันเป็นดงพระกรรมฐานแท้ๆ กับพระอาจารย์ ถึงสำนักป่ากรรมฐานแห่งหนึ่ง
    พระเจ้าถิ่น ท่านมาจากสายไหนครับ?
    พระมหา สายพระพุทธเจ้าครับ
    พระเจ้าถิ่น .............................
       
       
  พระอาจารย์ฉันเจอ
 
     ณ วัดแห่งหนึ่งทางภาคใต้ ของประเทศไทย ช่วงเทศกาลถือศีลกินเจ คือประมาณเดือน ๙ ของทุกปี ประชาชนส่วนมากนิยมกินเจกัน
    ลูกศิษย์ พระอาจารย์ครับ พระอาจารย์ฉันเจหรือเปล่า?
    พระอาจารย์ ผมฉันเจอ
    ลูกศิษย์ ฉันเจออย่างไรครับ?
    พระอาจารย์ คือ เจออะไร หรือโยมถวายอะไร ก็ฉันหมด ทั้งเจทั้งไม่เจ
    ลูกศิษย์ ..................................
     
     
  หลวงปู่เข้ากรุงเทพ
 
      พระเถระรูปหนึ่ง เดินทางจากภาคอีสาน ของประเทศไทย เข้ามาทำธุระ ในกรุงเทพมหานคร โดยได้พักอาศัยอยู่ที่วัดแห่งหนึ่ง พอตอนเช้า กิจวัตรของท่าน ก็คือ ต้องออกบิณฑบาต แต่เพราะท่านเดินทางมาจากต่างจังหวัด จึงไม่ทราบว่า สถานที่่ไหนเขาใส่บาตร และใส่กันเวลาไหน ท่านออกบิณฑบาตรไป ก็ไม่มีคนใส่เลย ท่านเดินไปถึงบ้านหลังหนึ่ง เป็นร้านใหญ่ เห็นเด็กผู้ชาย ลูกเจ้าของร้าน กำลังวิ่งเล่นอยู่หน้าร้าน
    พระเถระ ตี๋น้อยๆ มาถือบาตรให้หลวงปู่หน่อย หลวงปู่จะเข้าห้องน้ำ
    เด็กน้อย เข้ามารับบาตร
    พระเถระ ไหนๆ ห้องน้ำอยู่ไหน หลวงปู่ขอเข้าห้องน้ำหน่อย
    เด็กน้อย นี่ๆ ทางนี้ครับ
    พระเถระ เข้าไปในห้องน้ำ ได้นั่งฟังอยู่
       พ่อแม่ของเด็กออกจากบ้าน เห็นลูกยืนอุ้มบาตรอยู่ จึงถามว่า
    พ่อแม่ ลูกเอาบาตรมาจากไหน
    ลูกชาย บาตรของหลวงปู่ครับ หลวงปู่กำลังเข้าห้องน้ำอยู่
 
     พ่อแม่ของเด็ก รับบาตรมาเปิดดู ไม่เห็นมีอาหารอะไร อยู่ในบาตรเลย จึงได้จัดเตรียมอาหาร ทั้งคาวหวานไว้ เมื่อพระเถระ ออกมาจากห้องน้ำแล้ว จึงได้นิมนต์ท่าน ให้เข้าไปฉันในบ้าน หลังจากวันนั้น ตระกูลนี้ก็ได้บำรุงพระเถระจนถึงปัจจุบัน.
       
       
  ว่าด้วยเรื่องอ้วน(มโนกรรม)
        พระอาจารย์ท่านหนึ่ง มีโอกาสได้ไปสอนธรรม ณ ประเทศอเมริกา วันนั้น อุบาสิกาท่านหนึ่ง ได้มาร่วมฟังธรรมด้วย แต่ว่ามาช้ากว่าคนอื่นๆ พอมาถึงมองไป เห็นพระอาจารย์ผู้บรรยายธรรม ก็นึกนินทาอยู่ในใจ แต่พระอาจารย์ก็ยังได้ยิน ก็ตอบในใจไปเหมือนกัน
    อุบาสิกา "พระอ้วน"
    พระอาจารย์ ก็พ่อแม่กูอ้วนนี่ จะไม่ให้กูอ้วนได้อย่างไรหล่ะ
       
   
   
  อาหารที่พระอยากฉัน
        อุบาสิกาท่านหนึ่ง มีศรัทธา อยากถวายอาหาร แก่พระภิกษุ จึงพูดปวารณาตัวกับพระภิกษุรูปนั้นว่า
    อุบาสิกา ท่านเจ้าคะ ท่านอยากจะฉันอะไรก็ให้บอกโยมนะ
    พระภิกษุ มาม่าและปลากระป๋อง โยม
    อุบาสิกา .............................
   
   
   
   
ขอขอบคุณ ท่านเจ้าของเรื่อง และท่านเจ้าของภาพจากอินเตอร์เน็ต ที่ไม่ได้เอ่ยนาม
 
Copyright 2004 watsomanas.com All Right Reserved. Thailand Web Stat