คำว่า "ทรง" แปลได้ทั้งนามและกิริยา แต่ในที่นี้จะกล่าวถึงที่เป็นกิริยา จากวิกิพจนานุกรม แปลว่า ตั้งอยู่ได้ จำ รองรับ มี คงอยู่ ถ้าเป็นคำราชาศัพท์ แปลว่า ขี่ หรือว่าทำ |
คำว่า "เจ้า" จากพจนานุกรมแปล ไทย-ไทย ราชบัณฑิตยสถาน แปลว่า ผู้เป็นใหญ่ ผู้เป็นหัวหน้า เช่น เจ้านคร เชื้อสายของกษัตริย์ นับตั้งแต่ชั้นหม่อมเจ้าขึ้นไป บางแห่ง หมายถึงพระเจ้าแผ่นดินก็มี เช่น เจ้ากรุงจีน ผู้เป็นเจ้าของ เช่น เจ้าทรัพย์ เจ้าหนี้ |
คำว่า "ทรงเจ้า" จากพจนานุกรมแปล ไทย-ไทย ราชบัณฑิตยสถาน แปลว่า ทําพิธีเชิญเจ้าเข้าสิงคนทรง และเรียกคนสําหรับทรงเจ้าว่า คนทรงเจ้า |
 |
คนทรงเจ้านั้น พิธีกรรมมีมาแต่โบราณกาล เพราะว่าประเทศไทยสมัยก่อนนั้น เรานับถือผีมาก่อนที่พระพุทธศาสนา จะเผยแพร่เข้ามา ฉะนั้นแล้ว การทรงเจ้าเข้าทรง จึงมีมาก่อน ก่อนที่เราจะไ้ด้หันมา นับถือพระพุทธศาสนาเสียด้วยซ้ำ ภายหลัง เมื่อเราหันมานับถือพระพุทธศาสนาแล้ว แต่ก็ไม่อาจที่จะทอดทิ้ง พิธีกรรมดั้งเดิมนั้นได้หมด จึงยังมีผู้สืบทอดกันจนมาถึงปัจจุบัน |
 |
คนทรงเจ้านั้น มีอยู่ ๒ ประเภทใหญ่ๆ ด้วยกัน คือ ของจริง๑ และของปลอม๑ แต่หากจะพูดกันแบบตรงๆ แล้ว การทรงเจ้าเข้าทรงที่เป็นของจริงนั้น มีไม่ถึง ๕๐ เปอร์เซ็นต์เสียด้วยซ้ำไป ส่วนมากแล้วมักจะเป็นของปลอม เพราะสมัยก่อน การแพทย์ และบ้านเมือง ยังไม่เจริญเหมือนปัจจุบัน ประชาชนเข้าถึงยาก และีสถานที่บริการไม่เพียงพอ หรือว่า อยู่ห่างไกลจากความเจริญ เป็นต้น เมื่อเป็นเช่นนี้ ที่พึ่งทางใจอย่างหนึ่ง ที่ชาวบ้านมักเรียกใช้เรียกหา ก็คือ หมอทรงเจ้า เพื่อสอบถามความเจ็บไข้ โรคภัยไข้เจ็บ ว่าเกิดจากอะไร? หรือสอบถามถึงสมบัติข้าวของ เงินทองที่สูญหาย หรือถูกโจรกรรมไปว่า "ทรัพย์สมบัติเหล่านั้น ไปอยู่ ณ แห่งหนตำบลใด ซึ่งหมอประเภทนี้เรียกว่าเป็นของจริง |
 |
แต่ว่า การทรงเจ้าที่ว่าเป็นของจริงนั้น ก็ใช่ว่าจะเชื่อถือได้เสมอไปไม่ เพราะว่า วิญญาณ ที่เชิญเข้ามาประทับทรง ในร่างของหมอนั้น อาจจะเป็นสัมภเวสี เปรต ภูตผี หรือเป็นวิญญาณธรรมดาๆ ที่ไม่มีฤทธิ์เดชอันใดเลยก็ไ้ด้ คือบางที พวกสัมภเวสี ภูตผี เปรต และพวกวิญญาณเหล่านั้น เห็นเครื่องเซ่นบูชา แล้วเกิดความอยาก จะกินเครื่องเซ่นบูชาเหล่านั้น จึงเข้ามาประทับร่าง เรื่องนี้ จะขอเล่าประสบการณ์หนึ่งให้ฟังว่า ณ จังหวัดหนึ่งทางภาคใต้ ของประเทศไทย มีหมู่บ้านแห่งหนึ่ง ซึ่งอยู่ไกลจากความเจริญมาก เป็นบ้านสุดเขตจังหวัดเลยก็ว่าไ้ด้ ฉะนั้นแล้ว เมื่อมีลูกหลาน หรือคนในครอบครัวเจ็บป่วย เป็นไข้ต่างๆ โดยมากแล้ว คิดกันว่า เป็นการกระทำ ของผีบ้านผีเรือน หรือผีป่า กระทำให้เกิดการเจ็บป่วยขึ้น เพราะผู้ป่วยไปทำผิด ต่อสถานที่นั้นๆ เช่นว่า บุกรุกสถานที่ ปลูกบ้านทับสายน้ำ ขวางทางเดินของน้ำ และทิ้งของไม่สะอาดลงในสถานที่เหล่านั้น เป็นต้น ซึ่งขอยกตัวอย่างประกอบ สักตัวอย่างหนึ่ง คือ มีครอบครัวหนึ่ง ลูกสาว ป่วยเป็นโรคผอมเหลือง พ่อแม่ ก็ไปหาหมอเข้าทรง มาทรงเจ้าเข้าทรงดูว่า "ลูกที่ป่วยไข้นั้น มีสาเหตุมาจากอะไร? โดนเจ้าที่เจ้าทางตรงไหน? หมอทรงเจ้าเข้าทรง ก็มาทำพิธีการให้ บอกว่า "ถูกเจ้าที่ตรงนั้นตรงนี้ ให้เอาของสิ่งนั้นสิ่งนี้ ไปบูชา หรือว่าไปเซ่นไหว้ เจ้าที่เจ้าทางเสีย เป็นการขอขมาลาโทษ ที่ได้กระทำล่วงเกินไป โรคภัยไข้เจ็บที่เป็นอยู่ก็จะได้หาย" เมื่อทางครอบครัว ได้จัดแจงข้าวของ ไปเซ่นไหว้เจ้าที่เจ้าทาง ดังที่หมอทรงเจ้าเข้าทรงบอกแล้ว แต่อาการป่วยไข้ของลูกสาว ที่เป็นอยู่ ก็ไม่ทุเลาลง ไม่หาย ดังที่หมอทรงเจ้ากล่าว สุดท้ายก็ต้องพาไปหาหมอ ในตัวอำเภอ แต่ทว่า ไม่ทันการเสียแล้ว เพราะโรคกำเริบหนัก เกินที่หมอจะเยียวยา ให้หายขาดได้แล้ว สุดท้ายครอบครัว ก็ต้องสูญเสียลูกสาวสุดที่รักไป ด้วยการเชื่อแต่เรื่อง การทรงเจ้าเข้าทรง อันนี้ข้าพเจ้าคิดว่า คงจะไม่ใช่แต่ชาวบ้าน ในทางภาคใต้เท่านั้น แต่มีเหตุการณ์แบบนี้ ทุกๆ ภาคของประเทศไทยเลยก็ว่าได้ เพราะสมัยก่อน การแพทย์ยังไม่เจริญ ชาวบ้านตาดำๆ เข้าถึงการรักษาพยาบาลยาก อีกทั้งการคมนาคมก็ลำบาก ยวดยานพาหนะก็หายาก เงินทองก็ไม่ค่อยจะมีกัน การเข้าไปหาคนทรงเจ้าเข้าทรง ก็มักจะเป็นทางเลือกอันดับต้นๆ ก็ว่าได้ เพราะเป็นคนในหมู่บ้านเดียวกัน หรือจะเป็นหมู่บ้านใกล้เคียง การเดินทางก็สะดวก ไม่ลำบากมากนัก |
 |
ส่วนการทรงเจ้าเข้าทรง ที่ว่าเป็นของปลอมนั้น มีอยู่มากมาย ซึ่งประเภทนี้ ผู้ทรง หรือที่เรียกกันว่า "ม้าทรง" นั้นมักจะชอบแสดงท่าทางแปลกๆ ที่คนโดยปกติไม่ค่อยจะทำกัน ชอบแสดงอิทธิฤทธิ์ให้คนเชื่อถือ และศรัทธา ว่าเป็นเทพชั้นนั้นชั้นนี้มาประทับทรง มาเข้าทรง มาทำนาย มาช่วยเหลือ มาพยากรณ์เหตุการณ์ต่างๆ ซึ่งหาความเป็นจริงไม่ได้เลย สมัยก่อน การเข้าทรงประเภทนี้ก็มีมาก ชอบทำนายทายทักว่า จะมีเหตุการณ์อย่างนั้น อย่างนี้เกิดขึ้น ตรงนั้นตรงนี้ เมื่อเจ้าพ่อหรือเจ้าแม่ ได้ทำนายทายทักออกไปแล้ว ก็สั่งลูกศิษย์ลูกหา ให้ไปกระทำการนั้นๆ ตามคำทำนายทายทัก ที่เจ้าพ่อหรือเจ้าแม่ ไ้ด้ทำนายเอาไว้แล้วเสียเอง เพื่อให้คำืทำนายนั้น เป็นความจริง เพิ่มความศักดิ์สิทธิ์ และความศรัทธา ความเลื่อมใสของคนทั่วไป เช่น ทำนายว่า จะมีไฟไหม้ตรงนั้นตรงนี้ ก็สั่งลูกศิษย์ ให้ไปวางเพลิงในสถานที่นั้นเสียเอง เพื่อให้มีคนเชื่อ มีคนมาเลื่อมใส ศรัทธาในตัวเจ้าพ่อเจ้าแม่ ต่อมา ทางการสืบทราบ จึงออกกฎหมาย ควบคุมคนทรงเจ้าเข้าทรง อย่างเคร่งครัด และลงโทษอย่างหนัก |
 |
บุคคล ที่เป็นคนทรงเจ้าเข้าทรงนั้น โดยมากจะมีความคิด มีความเชื่อฝังใจมาตั้งแต่เด็กๆ ว่า ตนเองเป็นผู้วิเศษอย่างนั้นอย่างนี้ มีเทพ เทวดา หรือศักดิ์สิทธิ์ องค์นั้นองค์นี้ มาประทับทรง บางทีอาจจะเป็นปมด้อย ของตนเองก็ได้ คือ อยากเป็นผู้วิเศษ สามารถช่วยผู้อื่นได้ เป็นที่พึ่งของคนอื่นได้ คิดจะช่วยคนนั้นคนนี้ ทั้งๆ ที่ตัวเองก็ไม่ได้วิเศษวิโสอะไร แต่เป็นการคิดนึกเอาเอง เข้าใจไปเอง คือ เป็นการโปรแกรมจิตใจ ของตนเองให้เชื่อว่า "ตนเองมีเทพเจ้าองค์นั้น องค์นี้มาประทับทรง" แล้วมีเชื่อแบบสุดโต่ง เป็นการกระตุ้นจิตใต้สำนึก ให้ยอมรับความคิดนั้นๆ จนคิดว่าเป็นความจริง และสามารถแสดงอาการแปลกๆ ต่างๆ ออกมา ทำให้คนที่ไม่เข้าใจ ไม่มีความรู้เรื่องราว เกี่ยวกับการทรงเจ้า มาศรัทธาเลื่อมใส และให้ช่วยเหลือ ในกิจการหน้าที่การงานต่างๆ โดยมากแล้ว คนทรงเจ้าเข้าทรงประเภทนี้ จะไม่เรียกร้องค่าครู ค่าใช้จ่ายอะไร เป็นแต่เจ้าตัวต้องการ จะช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์ด้วยกัน ให้รอดพ้นจากภัยอันตรายเท่านั้น นี้เป็นประเภทของปลอม ไม่ได้ตั้งใจที่จะหลอกลวงผู้อื่น แต่เป็นเพราะความเข้าใจผิดของตนเอง ว่ามีเทพมาประทับทรง
|
|
การทรงเจ้าอีกประเภทหนึ่ง เป็นของปลอม และมีความประสงค์ จะหลอกลวงผู้ืื่อื่นให้เข้าใจว่า ตนเป็นผู้วิเศษอย่างนั้นอย่างนี้ ดังที่ตนเองและสมัครพรรคพวก ได้อุปโลกน์กันขึ้นมาเอง มีบริษัทบริวารและหน้าม้า เป็นการหลอกลวงกัน แบบครบวงจร มีการแสวงหาเงินทองเป็นหลัก ไม่สนใจเรื่องอื่น สำนัก หรือตำหนัก ที่สร้างกันขึ้นมา ก็เพียงเพื่อแสวงหาทรัพย์สินเงินทอง จากผู้ที่มีความเดือดร้อน มีความทุกข์ทางกาย ทุกข์ทางใจ ที่มาติดต่อ ขอรับการรักษาไข้ รักษาคุณไสยมนต์ดำ ปรึกษาปัญหาชีวิต เสริมดวง ดูดวง ทำนายโชคชะตา บุคคลผู้ที่ไม่มีความรู้ ก็เข้าใจว่า ผู้เข้าทรงนั้น เป็นผู้วิเศษ สามารถพึ่งพาอาศัยได้ การกระทำแบบนี้ เป็นการซ้ำเติมชาวบ้านผู้มีความเดือดร้อน ให้ได้รับความทุกข์ยากลำบาก เพิ่มขึ้นไปอีก เข้าข่ายหลอกลวงผู้อื่น
|
|
ขอขอบคุณท่านเจ้าของภาพ จากสื่ออินเตอร์เน็ตต่างๆ ที่ไม่ไ้ด้เอ่ยนาม |
|
 |
 |
 |